7 ประเภทงานพาร์ทไทม์ แนะนำนักเรียนหาประสบการณ์ช่วงปิดเทอม

หมวดหมู่: เครื่องมือข้อมูลด้านการสอน

Tags:  ไอเดียการสอน

อ่านแล้ว: 9491 ครั้ง

ช่วงปิดเทอมสำหรับนักเรียนของคุณครูหลายท่าน น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีและเหมาะจะทำกิจกรรมที่หลากหลายเลยค่ะ

นักเรียนบางคนเลือกไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว บางคนเลือกลงเรียนคอร์สพัฒนาตัวเองระยะสั้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหลายคนอาจเลือกการหาประสบการณ์ด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ในสถานประกอบการต่างๆ

แนะแนวฮับเชื่อว่า ทุกการเลือก สามารถพานักเรียนไปสู่การรู้จักตนเองผ่านประสบการณ์ตรงได้ วันนี้เราจึงขอเลือกพาคุณครูไปรู้จักกับการหาประสบการณ์ผ่านงานพาร์ทไทม์ทั้ง 7 ประเภท ที่คุณครูสามารถนำไปแนะนำให้แก่นักเรียนที่สนใจได้

จะมีงานอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ! 🙂🙂

1. งานแอดมินเพจต่างๆ

เป็นงานตอบแชทลูกค้า ดูแลความเรียบร้อยของเพจ และคอยตอบคำถามต่างๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า และบางที่อาจจะต้องดูแลเรื่องของการโพสคอนเทนต์ตามช่องทางต่างๆ ด้วย ซึ่งค่าตอบแทนจะขึ้นอยู่กับรายได้จากการขายสินค้าของแต่ละบริษัท หรือตามการตกลง

✅ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว

1) ศึกษาหาข้อมูลบริษัทและสินค้าอย่างละเอียด

2) ฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการตอบคำถาม

3) ศึกษาข้อมูลรูปแบบของการโพสต์ตามช่องทางต่างๆ

4) เตรียมคอมพิวเตอร์ส่วนตัว (บางบริษัทต้องการให้เราใช้คอมพิวเตอร์ของตนเอง)

🚨 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ ความน่าเชื่อถือของงาน เพราะบางงานอาจจะเป็นมิจฉาชีพปลอมตัวมาเพื่อให้นักเรียนสมัครงาน ดังนั้น ขอให้ระมัดระวังงานที่มีลักษณะดังต่อไปนี้

• ไม่สามารถหาที่อยู่ที่ชัดเจนของบริษัทได้

• ไม่มีอีเมลของบริษัท หรือมีอีเมลที่ไม่ถูกต้อง เช่น ที่ถูกต้องคือ info@company.com แต่เขียนเป็น info@companny.com (เพิ่ม n มาอีก 1 ตัว)

• ตำแหน่งงาน เงินเดือน และสวัสดิการต่างๆ มีความยืดหยุ่นเกินจริง เช่น “การันตีรายได้ 500/วัน”

• ไม่มีการนัดสัมภาษณ์พูดคุย แต่รับเข้าทำงานเลย

• นักเรียนต้องชำระเงินล่วงหน้าเพื่อเป็นค่าสมัคร หรือเป็นค่านายหน้าในการหางาน

• นักเรียนต้องเปิดบัญชีหลายบัญชีเพื่อรับค่าตอบแทน

• นักเรียนจะได้รับเงินล่วงหน้าทันทีที่สมัครงาน

• นักเรียนจะต้องแอดไลน์ไปเพื่อพูดคุยรายละเอียดงาน โดยมีชื่อไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น @L1199jy

📍 วิธีการหางานที่เหมาะสมและปลอดภัย

• ค้นหาตามหน้าเพจสินค้าต่างๆ เปิดรับสมัครโดยตรง รวมถึงการหาเพจที่มีเว็บไซต์ ที่อยู่บริษัท และอีเมลที่ติดต่อได้ แล้วทัก inbox เพื่อสอบถามกับแอดมินโดยตรงเลยว่า “เปิดรับสมัครงานพาร์ทไทม์ไหมคะ/ครับ”

• ค้นหาตามกลุ่มเฟสบุ๊กต่างๆ เช่น กลุ่ม Daywork- เด็กพาร์ทไทม์ หางานพาร์ทไทม์ แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ตรวจสอบความน่าเชื่อของ “ผู้โพสต์งาน” และเนื้อหางานให้ดี เพราะบางครั้งมิจฉาชีพมักแฝงตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มแบบนี้ได้เช่นกัน

• ค้นหาตามเว็บไซต์ชั้นนำที่เป็นตัวแทนในการหางาน เช่น JobDB, Jobbkk เป็นต้น

2. งานตามร้านอาหารต่างๆ

งานยอดฮิตสำหรับนักเรียนมัธยมที่สนใจอยากลองเป็นพนักงานร้านอาหารเฟรนไชส์ต่างๆ ซึ่งบางร้านมักจะมียูนิฟอร์มน่ารักๆ ให้ได้ใส่จนกลายเป็นจุดที่ทำให้นักเรียนหลายคนสนใจ โดยค่าตอบแทนจะได้เป็นรายชั่วโมง อาจอยู่ที่ชั่วโมงละประมาณ 45 - 60 บาท

✅ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว

1) เตรียมร่างกายให้พร้อม นอนให้เต็มอิ่ม มีรองเท้าที่ใส่เดินหรือยืนได้นานๆ เพราะเป็นงานบริการที่จะต้องใช้ร่างกายพอสมควร เช่น จะต้องยืนประมาณ 6 - 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือบางร้านอาจจะต้องให้พนักงานช่วยกันทำความสะอาด เก็บโต๊ะเก้าอี้ ล้างจาน เป็นต้น

2) ฝึกทักษะการสื่อสารเพื่อพูดคุยกับลูกค้าและพนักงานในครัว

3) ฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น หากเกิดเหตุการณ์ที่ลูกค้าพูดจาไม่ดีใส่ นักเรียนจะต้องหาทางสื่อสารกลับอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทั้งแก่ตนเอง ลูกค้า และเจ้าของร้าน

4) ปรับเวลานอน เพราะบางแห่งเป็นร้านอาหารตอนเย็น เปิดตั้งแต่ 18.00 เป็นต้นไป ก็อาจทำให้นักเรียนนอนไม่เป็นเวลาได้

🚨 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ อันตรายที่อาจเกิดจากที่ทำงาน และการเดินทางไปทำงานของนักเรียน เพราะงานตามร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นงานบริการ อาจจะเจอลูกค้าทั้งที่ดีและไม่ดี นักเรียนจะต้องมีวิธีดูแลความปลอดภัยให้ตัวเองทั้งเรื่องร่างกายและจิตใจ เช่น หาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดการล่วงละเมิดขึ้น

📍 วิธีการหางานที่เหมาะสมและปลอดภัย

• เดินเข้าไปสอบถาม (Walk-in) ตามร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าว่า ขณะนี้ทางร้านต้องการรับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์หรือไม่

• ค้นหาตามกลุ่มเฟสบุ๊ก เช่น กลุ่มหางาน พื้นที่ใกล้บ้านที่อาศัยอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ตรวจสอบข้อมูลการเปิดรับสมัครงานและข้อมูลหน่วยงานนั้นๆ อย่างรอบคอบ เพราะงานใกล้บ้านก็อาจเป็นงานที่มีความเสี่ยงได้เช่นกัน

3. งานฟรีแลนซ์ทั่วไป

งานรับจ้างทั่วไปมีประเภทงานที่หลากหลาย นักเรียนสามารถเลือกโดยเริ่มจากทักษะที่ตนเองมี เช่น รับงานถอดเทป รับออกแบบกราฟิก รับแพคสินค้า เป็นต้น ซึ่งค่าตอบแทนจะขึ้นอยู่กับประเภทของงานและเรทราคาที่ผู้ว่าจ้างระบุ

✅ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว

• ฝึกฝนทักษะที่จะต้องใช้ในงานให้เชี่ยวชาญ เช่น อยากหางานประเภทรับออกแบบกราฟิก นักเรียนจะต้องฝึกฝนการใช้โปรแกรมต่างๆ หรือฝึกหัดวาดรูปให้เป็นลายเส้นของตนเองและพร้อมปรับเพื่อให้ตอบโจทย์งานนั้นๆ

• เตรียมทำพอร์ตโฟลิโอรวบรวมผลงานที่ตนเองเคยทำมาก่อน เช่น งานออกแบบกราฟิกป้ายโรงเรียน การตกแต่งบอร์ดในงานต่างๆ ฯลฯ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสมัครงาน

• ฝึกคิดราคาค่าแรงของตนเอง ซึ่งนักเรียนสามารถค้นหาราคาตามท้องตลาดทั่วไปว่า งานประเภทออกแบบกราฟิกเขาคิดกันเท่าไรบ้าง เช่น ราคาตลาดอาจอยู่ที่ประมาณ 500 - 700 บาท/1 ภาพกราฟิก นักเรียนอาจจะลองหาค่าเฉลี่ยตรงกลางเป็นเงิน 600 บาท/1 ภาพกราฟิก เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นักเรียนจะต้องประเมินราคาตามความยากง่ายและความเร่งด่วนของงานด้วย

🚨 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ มิจฉาชีพที่แอบแฝงมากับงานฟรีแลนซ์ตามเพจต่างๆ เหมือนกับงานแอดมินเพจ ดังนั้น ขอให้นักเรียนตรวจสอบความปลอดภัยของงานให้ดีก่อน อาจนำเบอร์ติดต่อไปให้คุณครูหรือผู้ปกครองช่วยตรวจสอบก่อนตัดสินใจสมัคร

📍 วิธีการหางานที่เหมาะสมและปลอดภัย

• สอบถามจากรุ่นพี่ที่เคยมีประสบการณ์การทำงานฟรีแลนซ์ เพราะงานฟรีแลนซ์มักมีเครือข่าย หรือกลุ่มรวมตัวคนทำงานฟรีแลนซ์ เพื่อรับงานต่างๆ

• ค้นหาจากเว็บไซต์ fastwork.co แหล่งรวมงานหลากหลายประเภทสำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่ต้องการหางาน และตรวจสอบข้อมูลผู้ว่าจ้างก่อนทุกครั้ง

4. งานติวเตอร์ สอนหนังสือ

เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถทางวิชาการ ชอบสอนหนังสือ และสามารถอธิบายเนื้อหายากๆ ให้เพื่อนๆ หรือน้องๆ เข้าใจได้ ซึ่งค่าตอบแทนจะขึ้นอยู่กับวิชาที่สอนและชั่วโมงที่สอน เช่น เริ่มต้นที่ 150 บาท/ชั่วโมง

✅ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว

• เตรียมทำเกรดให้ดี อย่างน้อยควรไม่ต่ำกว่า 3.50 เพราะจะใช้เป็นตัวการันตีและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักเรียนได้

• เตรียมทบทวนเนื้อหาที่จะสอน เช่น นักเรียนถนัดวิชาภาษาอังกฤษ อาจจะต้องนำวิชาภาษาอังกฤษมานั่งทบทวนใหม่ตั้งแต่เนื้อหาของระดับชั้นประถมหรือชั้นมัธยมตอนต้น เพื่อให้สามารถออกแบบเนื้อหาการสอนได้ตรงตามความคาดหวังของผู้เรียน

• เตรียมผลงาน เช่น เกียรติบัตรการไปสอบแข่งขันงานวิชาการต่างๆ หรือผลคะแนนสอบวัดความรู้อย่างผลสอบโทอิค เป็นต้น ในกรณีที่ไปสมัครงานตามสถาบันต่างๆ

🚨 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ งานติวที่จะต้องให้นักเรียนโอนเงินจ่ายเป็นค่านายหน้าเพื่อหาคนเรียนก่อน เช่น จ่าย 500 บาท เพื่อให้ทีมงานส่งเบอร์โทรคนที่ต้องการติวให้ ซึ่งตามจริงแล้วเป็นกลโกงของมิจฉาชีพ นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังการว่าจ้างที่ให้นักเรียนเดินทางไปติวหรือสอนในที่เปลี่ยว เป็นต้น

📍 วิธีการหางานที่เหมาะสมและปลอดภัย

• ค้นหาตามสถาบันหรือโรงเรียนสอนพิเศษ แล้วส่ง inbox ไปสอบถามว่าต้องการรับสมัครติวเตอร์พาร์ทไทม์หรือไม่ แต่นักเรียนอาจจะต้องระบุไปว่า รับสอนเฉพาะวิชาอะไร ในช่วงชั้นประถมศึกษาและ/หรือมัธยมต้น เป็นต้น

• ค้นหาตามกลุ่มติวเตอร์ที่น่าเชื่อถือ เช่น wechulatutor เป็นต้น

5. งานในร้านสะดวกซื้อ

ติดโผงานยอดฮิตสำหรับนักเรียนมัธยมเช่นกัน เพราะนักเรียนสามารถเลือกทำงานกับร้านใกล้บ้าน และเลือกเวลาที่สะดวกในการทำงานได้ ซึ่งลักษณะงานจะมีความหลากหลาย เช่น แคชเชียร์ พนักงานส่งของ พนักงานจัดของ พนักงานชงชา-กาแฟ เป็นต้น โดยอาจมีค่าตอบแทนเริ่มต้นที่ประมาณ 300 บาท/ วัน

✅ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว

• เตรียมพลังกาย พลังใจในการทำงานที่หลากหลายประเภท เช่น บางวันอาจจะต้องเป็นแคชเชียร์ หรือบางวันอาจจะต้องเป็นคนส่งของ เป็นต้น

• ฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการบริการลูกค้าในร้าน เช่น การต้อนรับลูกค้า การเสนอขายสินค้าในช่วงโปรโมชั่นต่างๆ

• เตรียมวางแผนตารางเวลาชีวิตของตัวเองเพื่อทำงานเป็นกะ เพราะบางครั้งอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ต้องสลับกะกับรุ่นพี่กะทันหันเนื่องจากติดธุระ เป็นต้น

🚨 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ อันตรายที่อาจเกิดจากที่ทำงาน และการเดินทางไปทำงานของนักเรียนเช่นเดียวกับงานที่ร้านอาหาร

📍 วิธีการหางานที่เหมาะสมและปลอดภัย

• เดินเข้าไปสอบถาม (Walk-in) ตามร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านที่นักเรียนสนใจ และต้องการสมัครเป็นพนักงานพาร์ทไทม์

6. งานประเภท Content creator

งานยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นยุคโซเชียล ซึ่งตอนนี้ใครๆ ก็สามารถเป็น Content creator รับเขียนงานขายสินค้า รับจ้างรีวิวสินค้า รับตัดต่อวิดีโอ เป็นต้น โดยค่าตอบแทนจะขึ้นอยู่กับจำนวนงาน ความยากง่ายของงาน และยอดวิวผู้ติดตามในแพลตฟอร์มของนักเรียน เช่น Tiktok / IG / Facebook เป็นต้น

✅ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว

• เตรียมสร้างเพจ หรือสร้างตัวตนของตัวเองเพื่อเป็นจุดดึงดูดให้มีผู้ติดตาม

• เตรียมพอร์ตโฟลิโอเกี่ยวกับผลงานที่เคยทำมา เช่น เคยรับงานเขียนกี่ชิ้น หรือรับตัดต่อวิดีโอให้กับลูกค้าประเภทไหนบ้าง

• ฝึกฝนทักษะการสื่อสารในโลกโซเชียล เช่น วิธีการพูดจูงใจ หรือวิธีการขายสินค้าต่างๆ

🚨 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ การถูกกดราคาจากเจ้าของสินค้าในการจ้างผลิตงาน เพราะอาจจะเห็นว่าเราเป็นเด็กที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก นอกจากนี้ การรับรีวิวสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ จนเกิดความเสียหายกับผู้บริโภคคนอื่นๆ ที่ซื้อตามเรา จะทำให้นักเรียนเสียเครดิตและชื่อเสียงตามไปด้วย

📍 วิธีการหางานที่เหมาะสมและปลอดภัย

• มุ่งมั่นผลิตเนื้อหาที่ดีและมีประโยชน์เพื่อสะสมยอดผู้ติดตาม พร้อมกับประชาสัมพันธ์ตามช่องทางต่างๆ ของนักเรียนว่ารับงานรีวิวต่างๆ

• ส่งอีเมลหาเจ้าของสินค้าแบรนด์ต่างๆ ที่นักเรียนสนใจ พร้อมกับส่งพอร์ตโฟลิโอเพื่อแนะนำตัวและผลงานที่เคยรับรีวิวสินค้า หากเจ้าของสินค้าสนใจ เขาก็จะตอบอีเมลกลับมา

7. งานนักแสดงตัวประกอบ (Extra) ตามกองถ่าย

อาจไม่ใช่งานที่จะพบเห็นได้ทั่วไป แต่ก็มีงานประเภทนี้อยู่จริงๆ ซึ่งเป็นงานที่มองหานักแสดงหลากหลายวัยมาร่วมแสดงละครในละคร ภาพยนตร์ หรือรายการบางฉาก เช่น เล่นบทเป็นเพื่อนพระเอก น้องนางเอก นักเรียนในโรงเรียน กลุ่มวัยรุ่นประจำซอย เป็นต้น ซึ่งค่าตอบแทนจะขึ้นอยู่กับแต่ละกองถ่าย โดยอาจเริ่มต้นประมาณ 500 บาท/ วัน แต่ถ้าหากมีบทพูดมากขึ้น ค่าตอบแทนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

✅ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว

• เตรียมพอร์ตโฟลิโอที่เกี่ยวข้องกับงานประเภทการแสดงที่เคยทำ เช่น ละครเวทีที่โรงเรียน พิธีกรงานสำคัญในโรงเรียน เป็นต้น

• ฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการกล้าแสดงออก เช่น ไม่อายที่จะออกหน้ากล้อง การพูดจาชัดถ้อยชัดคำ

• เตรียมความพร้อมทางร่างกายและรูปร่างหน้าตาให้เหมาะสมกับบทบาท

🚨 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ มิจฉาชีพที่แฝงตัวมาเป็นแมวมองเพื่อหานักแสดง แต่กลับมาหลอกลวงด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ เช่น ให้โอนเงินมาก่อนที่จะเรียกคัดตัวนักแสดง (แคสติ้ง - Casting) หรือขอล่วงละเมิดทางร่างกายแล้วหลอกว่าจะทำให้เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นต้น

📍 วิธีการหางานที่เหมาะสมและปลอดภัย

• ค้นหาตามเว็บไซต์หรือเพจของสถานีในแต่ละช่องที่สามารถเชื่อถือได้

• ค้นหาตามกลุ่มเฟสบุ๊ก เช่น กลุ่มหานักแสดง Extra งานภาพยนตร์ โฆษณา MV Event ต่างๆ แต่จะต้อง หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้โพสต์หางาน เพื่อป้องกันข้อมูลลวงจากมิจฉาชีพ

7 ประเภทงานที่แนะแนวฮับนำมาฝากข้างต้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งของงานอีกมากมายในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งนักเรียนอาจจะได้เจองานพาร์ทไทม์ประเภทอื่นๆ ที่ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะใหม่ๆ และรู้จักคนใหม่ๆ ได้มากขึ้นจากประสบการณ์นอกโรงเรียน

ทั้งนี้ หากนักเรียนอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ นักเรียนจำเป็นต้องขออนุญาตทำงาน เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด โดยจะต้องศึกษาข้อมูลการรับเข้าทำงานของสถานประกอบการนั้นก่อนๆ แล้วจึงจะสามารถประสานงานแนะแนวเพื่อดำเนินการเรื่องเอกสาร หรือหาช่องทางการทำงานให้ถูกต้องต่อไป

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คุณครูสามารถแนะแนวทางให้นักเรียนได้ คือ การแนะนำให้นักเรียนกลับมาทบทวนตัวเองและทำความรู้จักตัวเองรอบด้านอย่างสม่ำเสมอ อาจเลือกใช้ชุดคำถามชวนทบทวนตัวเองที่แนะแนวฮับเคยนำมาแบ่งปันกัน เช่น

• แจก 70 คำถาม ชวนนักเรียนทบทวนตัวเอง https://guidancehubth.com/knowledge/102

• แจก 36 หัวข้อ ชวนนักเรียนฝึกทักษะการคิดผ่านการเขียน https://guidancehubth.com/knowledge/114

• ฝึกทักษะการคิดให้นักเรียน ด้วย 14 ประเด็นชวนคุย https://guidancehubth.com/knowledge/50

หรือชวนนักเรียนสำรวจตัวเอง ด้วยเครื่องมือออนไลน์ https://a-chieve.org/doll-activity/map ก็จะช่วยให้นักเรียนค่อยๆ ค้นหาเส้นทางที่ใช่ และอาชีพที่ชอบสำหรับตัวเองในอนาคตได้ค่ะ 😀😀

---

พิเศษ! เปิดคอร์สออนไลน์ชวนคุณครูที่ต้องสอนแนะแนวทุกท่านมาเรียน

หลักสูตรการเรียนการสอนแนะแนวและการสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Online)

ถ่ายทอดโดยเพื่อนครูแนะแนวผู้มีประสบการณ์ตรงในการนำไปใช้จนเห็นผลการเปลี่ยนแปลง พร้อมเคล็ดลับและคำแนะนำที่สามารถใช้ได้จริง

✅ เรียนฟรี

✅ ได้ไอเดียและกิจกรรมไปใช้สอนแนะแนว

✅ มีเกียรติบัตร

คลิกสมัครและเริ่มเรียนได้ที่ https://guidancehubth.com/courses