7 ไอเดียกระตุ้นนักเรียนส่งงานมากขึ้น
หมวดหมู่: เครื่องมือข้อมูลด้านการสอน
Tags: ไอเดียการสอน
อ่านแล้ว: 1980 ครั้ง
พูดจนปากเปียกปากแฉะ ก็ยังไม่ส่งงานกัน ฮือออ 😩💨
ทุกสัปดาห์แรกของช่วงปิดเทอม มักเป็นสัปดาห์ของการตามงานนักเรียนที่ติด ร มส. กันใช่ไหมคะ แต่สำหรับนักเรียนบางกลุ่ม ต่อให้ตามแค่ไหนก็ยังไม่สามารถทำให้นักเรียนส่งงานและเอกสารสำคัญต่างๆ ตามกำหนด
วันนี้แนะแนวฮับจึงขอมาแจก 7 ไอเดีย เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนอยากส่งงานกันมากขึ้นค่ะ 🙂
1.เปิดอก จับเข่าคุยกัน
หลายๆ ครั้งที่นักเรียนไม่ส่งงาน อาจไม่ใช่เพราะขี้เกียจ แต่เป็นเพราะพวกเขามีปัญหาบางอย่างที่บอกคุณครูไม่ได้ เช่น
- ไม่มีเวลาทำงาน เพราะต้องช่วยแม่ขายของ
- ไม่เข้าใจคำสั่งของงานชิ้นนั้นๆ แต่ไม่กล้าถาม
- รู้สึกเขินอายที่ต้องบอกข้อมูลส่วนตัว จึงไม่อยากสมัครทุน
ขอให้คุณครูลองเริ่มจากการนัดนักเรียนที่ไม่ส่งงานมาพูดคุยกัน โดยคุณครูอาจจะแบ่งสถานการณ์ออกเป็น 3 กลุ่ม เช่น กลุ่มที่ไม่ได้ส่งเอกสารสำคัญ, กลุ่มที่ไม่ได้ส่งงานมากกว่า 5 ชิ้นขึ้นไป, กลุ่มที่ไม่ได้ส่งงานเลย เพื่อให้คุณครูสามารถหาวิธีการแก้ปัญหาของแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม
2.ให้ทางเลือกนักเรียน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการส่งงาน
นักเรียนแต่ละคนมีความถนัดแตกต่างกัน บางคนถนัดวาดรูปมากกว่าเขียนอธิบาย บางคนถนัดอัดวิดีโอส่งมาแทนการพูดหน้าชั้นเรียน
ลองให้นักเรียนออกแบบงานและการส่งงานได้ตามที่ถนัด อาจจะช่วยให้นักเรียนเกิดความรู้สึกกระตือรือร้นในการส่งงานมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับโจทย์ที่นักเรียนแต่ละคนได้รับด้วย ว่ามีความเหมาะสม มีความท้าทายในระดับที่นักเรียนยังมีไฟอยากทำนะคะ
3.ให้นักเรียนกำหนดเกณฑ์ที่คาดหวังของตนเอง
นอกจากการให้นักเรียนเลือกออกแบบงานและวิธีการส่งงานของตนเองแล้ว การให้นักเรียนกำหนดเกณฑ์ ผ่าน/ ไม่ผ่านของตัวเองก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เห็นการพัฒนาของตนเองได้ เช่น “ผ่าน” ของนักเรียน หมายถึง การทำสมุดสะสมข้อมูลอาชีพของตนเอง 10 อาชีพและมาเล่าให้คุณครูฟัง
ในกรณีที่คุณครูเห็นว่า เกณฑ์ที่นักเรียนสร้างนั้นง่ายเกินกว่าความสามารถที่แท้จริงของนักเรียน ขอให้คุณครูแลกเปลี่ยนเกณฑ์ความคาดหวังของคุณครูด้วยเช่นกัน เพื่อหาเกณฑ์ที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนอย่างแท้จริง
4.ให้นักเรียนจับคู่บัดดี้ หรือจับกลุ่มไม่เกิน 3 คน
พลังกลุ่มจะช่วยทำให้นักเรียนมีแรงในการทำงานและส่งงานมากยิ่งขึ้น โดยคุณครูอาจจะจับกลุ่มนักเรียนได้ดังนี้
- จับกลุ่มตามความสนใจของโจทย์งาน
- จับกลุ่มตามเกณฑ์ที่คุณครูวางไว้ เช่น กลุ่มที่ไม่ส่งงานเกิน 5 ชิ้น, กลุ่มที่ไม่ส่งงานเลย, กลุ่มที่ยังไม่ส่งเอกสารสำคัญ เป็นต้น
- จับกลุ่มตามอิสระ
*หมายเหตุ: เหตุผลที่ไม่ควรจับกลุ่มเกิน 3 คน เพื่อให้สมาชิกในกลุ่มทุกคนมีส่วนร่วมในงานได้เต็มที่ และคุณครูก็สามารถตรวจสอบและติดตามชิ้นงานได้อย่างละเอียดครบถ้วน สิ่งสำคัญคือ คุณครูต้องให้นักเรียนกำหนดบทบาทหน้าที่ร่วมกัน เพื่อให้รู้สึกมีส่วนร่วมและพร้อมรับผิดชอบงานให้สำเร็จ
5.จัดช่วงเวลาสำหรับการติดตามงาน
ถ้าสั่งงานแบบปล่อยให้นักเรียนไปทำเองโดยไม่ได้ติดตามเลย อาจเกิดเหตุการณ์ไม่ส่งงานซ้ำอีก ดังนั้น ขอให้คุณครูลองจัดช่วงเวลาติดตามงาน (ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียน หรือจำนวนกลุ่ม โดยที่ให้เวลาคน/ กลุ่มละไม่เกิน 15 นาที) ตัวอย่างคำถามสำหรับการติดตาม เช่น
- “ช่วยประเมินความก้าวหน้าในงานให้หน่อยว่า ระดับ 1 - 10 นักเรียนแต่ละคนให้คะแนนงานตอนนี้เท่าไหร่?”
- “ในการทำงานร่วมกัน มีอะไรติดขัดหรือเป็นปัญหาบ้างไหม?”
- “คิดว่างานเสร็จ พร้อมส่งให้ครูในวันที่เท่าไหร่?”
- “มีอะไรที่อยากได้ความช่วยเหลือจากครูบ้างไหม?”
- “มีอะไรบ้างที่อยากจะบอกเพื่อน/ ตัวเอง เพื่อให้การทำงานชิ้นนี้สำเร็จ?”
6.ให้ตัวอย่างที่ชัดเจน
นักเรียนหลายคนมีปัญหาเรื่องการส่งงาน เพราะไม่เข้าใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เช่น งานพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งเป็นงานที่ซับซ้อน ต้องอาศัยการวางแผนและเตรียมข้อมูลล่วงหน้า
ดังนั้น การมีตัวอย่างชิ้นงานให้ศึกษาด้วย จะช่วยให้นักเรียนเริ่มต้นทำงานได้ง่ายขึ้น หากคุณครูนำชิ้นงานที่สมบูรณ์มาให้นักเรียนดู สามารถถามคำถามเพื่อชวนนักเรียนคิดต่อ เช่น
- “นักเรียนชื่นชอบชิ้นงานนี้ตรงไหนบ้าง เพราะอะไร?”
- “ถ้าเป็นนักเรียน คิดว่าจะเริ่มต้นทำอะไรก่อน- หลัง?”
- “นักเรียนจะส่งร่างไอเดียงานชิ้นแรกให้คุณครูดูวันไหนดี ส่งแบบยังไม่ต้องสมบูรณ์ก็ได้”
7.ขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง
ผู้ปกครองหรือครูประจำชั้นอาจจะเป็นตัวช่วยและแรงกระตุ้นที่ดีของครูแนะแนว โดยเฉพาะเรื่องติดตามเอกสารสำคัญต่างๆ ให้ครบถ้วนค่ะ
ยกตัวอย่างเอกสารการสมัครทุน ที่คุณครูต้องคอยติดตามบ่อยๆ อาจเพราะ
- นักเรียนไม่รู้จะขอข้อมูลจากผู้ปกครองยังไง
- นักเรียนไม่กล้าบอกข้อมูลแก่คุณครู
- ผู้ปกครองไม่อยู่รับทราบและเซ็นเอกสารให้ เป็นต้น
คุณครูอาจลองนัดนักเรียนมาพูดคุยถึงสาเหตุที่แท้จริง และทำงานร่วมกับครูประจำชั้นในการติดต่อกับผู้ปกครองในทุกช่องทาง เพื่อให้รับทราบถึงข้อติดขัดที่เกิดขึ้นและช่วยกันแก้ไขปัญหาต่อไป
หากเปรียบเหตุการณ์การไม่ส่งงานนี้ ด้วยทฤษฎีเขาน้ำแข็ง การไม่ส่งงานหรือเอกสารสำคัญต่างๆ ของนักเรียนอาจเป็นแค่ปัญหาที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ แต่ลึกลงไปใต้น้ำ เราอาจจะพบว่ามีหลากหลายสาเหตุที่ซ่อนอยู่ค่ะ
แนะแนวฮับจึงอยากชวนให้คุณครูลองนำ 7 ไอเดียนี้ไปปรับใช้กับนักเรียนแต่ละคน หรือแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม ถึงจะยังไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก ก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักเรียนเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาค่ะ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้คุณครูนะคะ 😀
พิเศษ! เปิดคอร์สออนไลน์ชวนคุณครูที่ต้องสอนแนะแนวทุกท่านมาเรียน
หลักสูตรการเรียนการสอนแนะแนวและการสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Online)
ถ่ายทอดโดยเพื่อนครูแนะแนวผู้มีประสบการณ์ตรงในการนำไปใช้จนเห็นผลการเปลี่ยนแปลง พร้อมเคล็ดลับและคำแนะนำที่สามารถใช้ได้จริง
✅ เรียนฟรี
✅ ได้ไอเดียและกิจกรรมไปใช้สอนแนะแนว
✅ มีเกียรติบัตร
คลิกสมัครและเริ่มเรียนได้ที่ https://guidancehubth.com/courses