พร้อมรับมือเคสฉุกเฉิน (ฉบับครูมือใหม่) EP.1
หมวดหมู่: พื้นที่เพื่อนครู
Tags: เคสฉุกเฉิน รับมือความเครียด ดูแลใจนักเรียน พื้นที่ปลอดภัย
อ่านแล้ว: 962 ครั้ง
“ครูครับ เกิดเรื่องแล้ว! 😲😱”
คำสั้นๆ ที่ทำเอาคนเป็นครูแนะแนวใจวูบ หูตาตื่นไปพร้อมกัน โดยเฉพาะครูแนะแนวมือใหม่หรือครูน้องใหม่ที่เพิ่งบรรจุ ที่น่าจะเป็นกังวลมากๆ เมื่อต้องรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพราะทุกอย่างดูเร่งรีบและสำคัญไปหมด ไม่รู้ควรทำอะไรก่อน-หลังดี
วันนี้แนะแนวฮับเลยขอแบ่งปันแนวทางให้คุณครูเซฟเก็บไว้ศึกษา เพื่อเตรียมตั้งหลักรับมือได้อย่างมั่นใจมากขึ้นค่ะ คุณครูท่านใดที่มีบทเรียนหรือประสบการณ์อยากแลกเปลี่ยน สามารถคอมเมนต์เป็นกรณีศึกษาหรือคำแนะนำให้คุณครูท่านอื่นได้เลยนะคะ 🙂🙂
แบบไหนนะที่เรียกว่า “เคสฉุกเฉิน”
จริงๆ แล้วเคสฉุกเฉินยังไม่มีคำนิยามที่เป็นคำนิยามร่วมที่เฉพาะเจาะจงตายตัว แต่ถ้าจะลองอธิบายในเชิงหลักการ เราอาจมองได้ว่า เคสฉุกเฉิน คือ กรณีที่เกิดสถานการณ์ที่ส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจของนักเรียนในระดับรุนแรง หรือนักเรียนถูกกระทำ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวแต่มีผู้พบเห็น จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีที่รับรู้เรื่อง ไม่สามารถรอได้เพราะเสี่ยงต่อสวัสดิภาพของนักเรียน ซึ่งเราอาจประเมินกรณีที่เข้าข่ายเคสฉุกเฉินได้จากอย่างน้อย 2 มิติ คือ
-
ระดับความรุนแรงที่เกิดกับนักเรียน
-
ความเสี่ยงและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียน หากไม่เกิดการดูแลช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ประเภทของเคสที่เป็นภัยต่อนักเรียน
อ้างอิงตามคู่มือการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา มี 4 กลุ่ม ได้แก่
-
ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence)
🟠 การล่วงละเมิดทางเพศ
🟠 การทะเลาะวิวาท
🟠 การกลั่นแกล้งรังแก
🟠 การชุมนุมประท้วงและการจลาจล
🟠 การก่อวินาศกรรม
🟠 การระเบิด
🟠 สารเคมีและวัตถุอันตราย
🟠 การล่อลวง ลักพาตัว
-
ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident)
🟣 ภัยธรรมชาติ
🟣 ภัยจากอาคารเรียน สิ่งก่อสร้าง
🟣 ภัยจากยานพาหนะ
🟣 ภัยจากการจัดกิจกรรม
🟣 ภัยจากเครื่องมือ อุปกรณ์
-
ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right)
🟠 การถูกปล่อยปละละเลย ทอดทิ้ง
🟠 การคุกคามทางเพศ
🟠 การไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคม
-
ภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness)
🟣 ภาวะจิตเวช
🟣 ติดเกม
🟣 ยาเสพติด
🟣 โรคระบาดในมนุษย์
🟣 ภัยไซเบอร์
🟣 การพนัน
🟣 มลภาวะเป็นพิษ
🟣 โรคระบาดในสัตว์
🟣 ภาวะทุพโภชนาการ
จากการทำสำรวจความคิดเห็นของคุณครูแนะแนวส่วนหนึ่งในโครงการ “ครูแนะแนวรุ่นใหม่สร้างเด็กไทยให้ออกแบบชีวิตตัวเองได้” รุ่นที่ 1 - 4 จำนวน 52 คน พบว่าเป็นเคสที่มีความท้าทายในการจัดการและอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการรับมือ ได้แก่
-
พฤติกรรมติดเกม
-
การกลั่นแกล้งและการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน
-
การบกพร่องทางการเรียนรู้
-
การล่วงละเมิดทางเพศ
-
ภาวะจิตเวช (ซึมเศร้า มีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย)
เคสฉุกเฉิน กับ ครูแนะแนว
ด้วยความที่นักเรียนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโรงเรียน ทำให้โรงเรียนกลายมาเป็นผู้เล่นสำคัญที่ถูกคาดหวังว่า จะมีความใกล้ชิดเพียงพอที่จะมองเห็นปัญหา และเข้ามามีส่วนสำคัญในการให้คำปรึกษาและหาแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสมกับนักเรียนนักเรียนได้
“เรียกครูแนะแนวมาพบด่วนค่ะ”
จากการสัมภาษณ์และสอบถามจากคุณครูหลายคนจากหลายโรงเรียนทั่วทุกภูมิภาค พบว่า แม้คุณครูวิชาอื่นๆ จะมีศักยภาพในการดูแลนักเรียนได้เป็นอย่างดี แต่ชื่อครูแนะแนวก็มักติดโผการถูกเรียกตัวเมื่อเกิดเคสฉุกเฉินอยู่เสมอ
สาเหตุหนึ่งเพราะเพราะครูแนะแนวมีแนวโน้มสามารถดูแลจัดการเคสอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงนักเรียนเป็นศูนย์กลาง สร้างพื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้นักเรียนนักเรียนสบายใจที่จะเล่าปัญหาที่เจอ เปิดใจทำความเข้าใจสถานการณ์โดยไม่ด่วนตัดสินใจก่อน มีกระบวนการในการประสานและพูดคุยเพื่อหาทางออกที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย มีจุดแข็งในเชิงหลักวิชาชีพ มีทักษะในการประเมินและดูแลสภาพจิตใจนักเรียน และการรู้จักเครือข่ายทำงานภายนอก
อย่างไรก็ตาม บทบาทและความคาดหวังต่องานดูแลนักเรียนนั้นมีความท้าทายสูงมาก เพราะครูเองก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าจะเกิดเหตุอะไรบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เรียกว่า “เคสฉุกเฉิน” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ครูแนะแนวควรมีตัวช่วยในการทบทวนความเข้าใจและแนวทางที่เหมาะสมในการเข้าไปช่วยเหลือเคสฉุกเฉิน
เกิดเคสฉุกเฉิน ต้องทำงานร่วมกับใครบ้าง
1.ภายในโรงเรียน:
🟠 บุคคลที่มีโอกาสเป็นผู้พบเจอเคสฉุกเฉินภายในโรงเรียนได้ ได้แก่
-
ครูที่ปรึกษา ครูประจำวิชา และครูแนะแนว ที่ใกล้ชิดกับนักเรียนในความรับผิดชอบโดยตรง ทำให้มีโอกาสในการรับรู้ความผิดปกติจากการสังเกตหรือจากการที่นักเรียนหรือเพื่อนเข้ามาขอคำปรึกษาได้
-
ฝ่ายกิจการนักเรียน ผู้มีหน้าที่คอยตรวจตราดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยต่อสวัสดิภาพของนักเรียนในภาพรวม
-
ครูพยาบาล ที่มักมีบทบาทสำคัญในการรับรู้และส่งต่อเคสที่มีอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย และ/หรือ อาจมีสาเหตุมาจากด้านจิตใจหรือปัญหาด้านอื่นๆ ด้วย
🟠 ต่างโรงเรียน ต่างวิธีการรับมือ
แต่ละโรงเรียนจะมีโครงสร้างและวิธีการจัดการแตกต่างกันตามความเหมาะสมของทรัพยากรครูและต้นทุนเครือข่ายการทำงานที่มี บางโรงเรียนมีการแบ่งบทบาทหน้าที่ชัดเจน ขณะที่บางโรงเรียนก็มีการส่งต่อเคสและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยฝ่ายกิจการนักเรียนมักดูแลส่วนที่เป็นเคสเชิงพฤติกรรมและมักเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎระเบียบ กฎหมาย (เช่น การใช้ยาเสพติด การทำร้ายร่างกาย) ขณะที่ฝ่ายแนะแนวมักดูแลเคสที่ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจ หรือนักเรียนควรได้รับคำปรึกษาและหาทางช่วยเหลือในหลายมิติ
ในระหว่างการรับมือเคส ครูระดับปฏิบัติงานจะมีการรายงานต่อหัวหน้าระดับ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน และผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อให้รับทราบ ขอคำปรึกษา รวมถึงขอการสนับสนุนทั้งด้านทรัพยากรและอำนาจการตัดสินใจ
2.ภายนอกโรงเรียน:
🟠 บุคคลภายนอกโรงเรียนที่คุณครูมีโอกาสติดต่อประสาน ได้แก่
-
พ่อแม่ ผู้ปกครองนักเรียน
-
ผู้ดูแลบ้านพักนักเรียนและครอบครัว
-
นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ประจำโรงพยาบาล
-
นักจิตวิทยาโรงเรียนประจำเขตพื้นที่การศึกษา
-
ตำรวจ
🟠 รับมือเคสฉุกเฉินด้วยสหวิชาชีพ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดและเป็นอันตรายกับนักเรียน ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หรือประเมินด้วยตนเองเพียงลำพังว่าสามารถดูแลจัดการได้ เนื่องจากอาจเกิดความรุนแรง และมีประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากกว่าการประเมินด้วยสายตา คุณครูจำเป็นต้องทำงานร่วมกับบุคลากรจากหน่วยงานภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อหาแนวทางการจัดการเคสที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขึ้นกับสถานการณ์ปัญหาของแต่ละเคส
หมายเหตุ: อาจเริ่มจากศึกษานโยบายของโรงเรียนหรือหน่วยงานที่คุณครูสังกัด ว่าเมื่อเกิดเคสฉุกเฉินขึ้น คุณครูและฝ่ายต่างๆ ในโรงเรียนจะมีแนวทางดูแลจัดการอย่างไร
ความท้าทายที่ครูแนะแนวอาจพบ
แม้มีการอบรมคุณครูในหัวข้อการรับมือเคสฉุกเฉินให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า คุณครูจะสามารถรับมือและจัดการได้อย่างราบรื่น เพราะยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เป็น ความท้าทายสำหรับครูแนะแนว เช่น
🟣 การขาดความรู้ ความเข้าใจ ทั้งต่อการรับมือเคสและขอบข่ายความรับผิดชอบ
เราพบว่า มีคุณครูหลายคนที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ ขาดการเตรียมความพร้อมในเชิงทักษะที่จำเป็นในการรับมือเคสฉุกเฉิน อันเนื่องมาจาก - ไม่มีวิธีการรับมือแต่ละเคสเป็นแบบแผนตายตัว เพราะเคสฉุกเฉินมีหลากหลายรูปแบบ หลายระดับความรุนแรง การเตรียมความพร้อมในปัจจุบันจึงไม่เพียงพอต่อการทำให้ครูสามารถรับมือเมื่อเกิดเคสฉุกเฉินขึ้นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ
-
ไม่ได้รับการอบรมโดยตรง ทำให้ครูแนะแนวส่วนใหญ่ขาดความมั่นใจในการวิเคราะห์ผลจากแบบคัดกรองเฉพาะด้าน
-
ไม่มีการพูดคุย หรือระบุแนวทางที่ชัดเจน ทำให้ครูแนะแนวเกิดความกังวลต่อขอบเขตที่เหมาะสม ที่ครูสามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายและระเบียบของโรงเรียน
🟣 ภาระงานอื่นเยอะ
ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบ ทั้งงานสอนและงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ทำให้ครูแนะแนวมีตารางงานที่แน่นมาก ส่งผลให้
-
ไม่สามารถดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึง
-
ไม่สามารถโฟกัส ให้เวลากับการให้คำปรึกษาและการทำบันทึกการให้คำปรึกษา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของงานแนะแนวและเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรับมือและส่งต่อเคสฉุกเฉินได้
🟣 ลำดับขั้นตอนกระบวนการการส่งต่อเคสฉุกเฉิน มีความซับซ้อน
แต่ละโรงเรียนต่างมีบริบท โครงสร้างการจัดการ และรวมถึงลักษณะงานที่จำเป็นต้องร่วมกับหลายฝ่าย แตกต่างกัน จนอาจเกิดความสับสน เข้าใจไม่ตรงกันว่ากรณีใก้คือเคสเร่งด่วนหรือรุนแรง และจำเป็นต้องส่งต่อ ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้ลำบาก
🟣 ระบบงานปัจจุบันยังไม่เอื้อให้ครูรับมือเคสฉุกเฉินได้ดีเท่าที่ควร
มีคุณครูแนะแนวบางส่วนที่ไม่สามารถดูแลรับมือเคสฉุกเฉินได้ทันท่วงที เนื่องจากติดพันกับระบบที่ยังไม่พร้อมสนับสนุน เช่น
-
การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างฝ่ายงานต่างๆ ในโรงเรียน ที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายงานแนะแนว ยังไม่ราบรื่น หรือยังไม่อัปเดตข้อมูลเท่ากัน
-
การทำงานร่วมกับผู้ปกครอง ที่พบปัญหาผู้ปกครองกลุ่มที่ไม่มีเวลา ขาดความเชื่อใจ และไม่ให้ความร่วมมือ
-
การประเมินด้วยตนเองของบางโรงเรียนว่าสามารถจัดการดูแลเคสฉุกเฉินได้ ทำให้ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการส่งต่อให้เขตพื้นที่การศึกษาหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จนครูแนะแนวไม่รู้ว่าควรติดต่อใคร
แนะแนวฮับเชื่อว่า ยังมีความท้าทายอีกมากที่คุณครูแนะแนวต้องเจอ บางครั้งเป็นโอกาสให้คุณครูได้เริ่มหารือและสื่อสารกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน ในขณะที่หลายครั้งก็เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ไม่สามารถดูแลนักเรียนได้อย่างที่ตั้งใจ
ใน Ep. ต่อไป เราจะชวนมาลงลึกถึงรายละเอียดการรับมือเคสฉุกเฉิน
รอติดตามได้เร็วๆ นี้ค่ะ
พิเศษ! เปิดคอร์สออนไลน์ชวนคุณครูที่ต้องสอนแนะแนวทุกท่านมาเรียน
หลักสูตรการเรียนการสอนแนะแนวและการสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Online)
ถ่ายทอดโดยเพื่อนครูแนะแนวผู้มีประสบการณ์ตรงในการนำไปใช้จนเห็นผลการเปลี่ยนแปลง พร้อมเคล็ดลับและคำแนะนำที่สามารถใช้ได้จริง
✅ เรียนฟรี
✅ ได้ไอเดียและกิจกรรมไปใช้สอนแนะแนว
✅ มีเกียรติบัตร
คลิกสมัครและเริ่มเรียนได้ที่ https://guidancehubth.com/courses